ออสเตรเลีย เป็นหนึ่งในประเทศที่ได้รับความนิยมอย่างสูง ทั้งคนไทยรวมถึงชาวต่างชาติที่ต้องการย้ายถิ่นฐานเพื่อการทำงาน ด้วยสภาพแวดล้อมที่ดี เศรษฐกิจที่แข็งแกร่ง และโอกาสทางอาชีพหลากหลาย อย่างไรก็ตามการจะเข้าไปทำงานที่ออสเตรเลียได้อย่างถูกต้องตามกฎหมายนั้น จำเป็นต้องมี “วีซ่าทำงาน (Work Visa)” ที่เหมาะสม  บทความนี้จะช่วยให้คุณเข้าใจภาพรวมของวีซ่าทำงานประเภทต่างๆ รวมถึงขั้นตอนที่สำคัญในการยื่นขอวีซ่า สำหรับใครที่กำลังมองหาโอกาสทำงานในประเทศออสเตรเลีย เพื่อให้คุณเตรียมตัวได้อย่างถูกต้องและมีประสิทธิภาพ

photo by freepik.com

photo by freepik.com

โดยหลักๆ แล้ว วีซ่าทำงานในออสเตรเลียสามารถแบ่งออกเป็นหมวดหมู่ใหญ่ๆ ได้หลายประเภท ขึ้นอยู่กับคุณสมบัติ ทักษะ และลักษณะงานที่คุณจะทำ ซึ่งแต่ละประเภทก็จะมีเงื่อนไขและข้อกำหนดที่แตกต่างกันไป ดังต่อไปนี้

1. วีซ่าทำงานแบบมีสปอนเซอร์ (Sponsored Work Visas)

เป็นวีซ่าที่ได้รับความนิยมมากที่สุดสำหรับแรงงานต่างชาติ โดยคุณจะต้องได้รับการสปอนเซอร์จากนายจ้างชาวออสเตรเลียที่ต้องการจ้างคุณไปทำงาน ตำแหน่งที่คุณจะทำต้องอยู่ในรายชื่ออาชีพที่เป็นที่ต้องการ (Skilled Occupation List) ของออสเตรเลีย วีซ่าประเภทนี้ยังแบ่งย่อยได้อีกหลายประเภท เช่น

  • 1.1 Temporary Skill Shortage (TSS) Visa (subclass 482): เป็นวีซ่าชั่วคราวสำหรับผู้ที่มีทักษะเฉพาะทางที่ขาดแคลนในออสเตรเลีย สามารถทำงานกับนายจ้างที่สปอนเซอร์ให้ได้สูงสุด 2-4 ปี ขึ้นอยู่กับประเภทอาชีพและข้อตกลง มีโอกาสที่จะนำไปสู่การขอวีซ่าถาวรได้ในอนาคต (เช่น ผ่าน Employer Nomination Scheme Visa - subclass 186)

 

  • 1.2 Employer Nomination Scheme (ENS) Visa (subclass 186): เป็นวีซ่าถาวรสำหรับแรงงานทักษะสูงที่ได้รับการเสนอชื่อจากนายจ้างชาวออสเตรเลีย มีทั้งแบบ Direct Entry Stream (สำหรับผู้ที่ยังไม่เคยทำงานที่ออสเตรเลียแต่มีทักษะและประสบการณ์สูง) และ Temporary Residence Transition Stream (สำหรับผู้ที่เคยทำงานในออสเตรเลียด้วยวีซ่า TSS มาแล้ว)

 

  • 1.3 Skilled Employer Sponsored Regional (Provisional) Visa (subclass 494): วีซ่าชั่วคราวสำหรับผู้ที่ได้รับการสปอนเซอร์จากนายจ้างในพื้นที่ภูมิภาค (Regional Area) ของออสเตรเลีย มีระยะเวลา 5 ปี และมีโอกาสยื่นขอวีซ่าถาวรในอนาคต

 

2. วีซ่าทักษะอิสระ (Skilled Independent Visas)

วีซ่าประเภทนี้ไม่จำเป็นต้องมีนายจ้างสปอนเซอร์ แต่คุณจะต้องมีคุณสมบัติและทักษะที่สูงมาก และอาชีพของคุณต้องอยู่ในรายชื่ออาชีพที่เป็นที่ต้องการของออสเตรเลีย เพื่อที่คุณจะได้รับคะแนนตามคุณสมบัติต่างๆ เช่น อายุ การศึกษา ประสบการณ์ทำงาน ความสามารถทางภาษาอังกฤษ เป็นต้น เป็นวีซ่าที่ต้องผ่านระบบคะแนน (Point Test)

  • 2.1 Skilled Independent Visa (subclass 189): เป็นวีซ่าถาวรสำหรับผู้ที่มีคุณสมบัติตรงตามข้อกำหนดและได้รับคำเชิญจากรัฐบาลออสเตรเลีย สามารถดำเนินการสู่การเป็นผู้อยู่อาศัยถาวร (Permanent Resident - PR) ซึ่งเป็นเป้าหมายสูงสุดของหลายคนที่ต้องการย้ายไปอยู่และทำงานที่ออสเตรเลียอย่างถาวร แม้จะต้องมีคุณสมบัติสูงมาก (คะแนนภาษาอังกฤษ, การศึกษา, ประสบการณ์) และอาชีพอยู่ในลิสต์ที่ขาดแคลน แต่เมื่อได้รับวีซ่าแล้วจะมีความมั่นคงสูงมาก

 

  • 2.2 Skilled Nominated Visa (subclass 190): เป็นวีซ่าถาวรสำหรับผู้ที่ได้รับการเสนอชื่อโดยรัฐหรือมณฑลของออสเตรเลีย โดยคุณจะต้องตกลงที่จะอาศัยและทำงานในรัฐหรือมณฑลนั้นๆ เป็นระยะเวลาหนึ่ง วัตถุประสงค์หลักของวีซ่านี้คือเพื่อช่วยให้รัฐและมณฑลต่างๆ ดึงดูดแรงงานทักษะที่ขาดแคลนในพื้นที่เข้ามาได้ เมื่อได้รับวีซ่านี้คุณและสมาชิกในครอบครัวที่ยื่นขอวีซ่าร่วมกัน จะได้รับสถานะผู้พำนักถาวรในออสเตรเลียทันที

photo by freepik.com

photo by freepik.com

 

3. วีซ่าสำหรับผู้ที่มีพรสวรรค์โดดเด่น (Global Talent Visa – subclass 858)

เดิมรู้จักกันในชื่อ Distinguished Talent Visa (Subclass 858) วีซ่าประเภทนี้มีไว้สำหรับผู้ที่มีความสามารถโดดเด่นเป็นพิเศษในสาขาต่างๆ ที่เป็นที่ต้องการของออสเตรเลีย เช่น เทคโนโลยี วิทยาศาสตร์ การแพทย์ ศิลปะ และกีฬา โดยต้องมีผลงานเป็นที่ประจักษ์ มีประวัติความสำเร็จที่โดดเด่นระดับสากล และสามารถสร้างประโยชน์ให้กับออสเตรเลียได้

 

4. วีซ่าทำงานช่วงวันหยุด (Work and Holiday Visa – subclass 462)

เป็นวีซ่าสำหรับเยาวชนอายุ 18-30 ปี (หรือ 35 ปีสำหรับบางประเทศ) ที่ต้องการเดินทางท่องเที่ยวและทำงานชั่วคราวในออสเตรเลีย เป็นโอกาสที่ดีในการสัมผัสวัฒนธรรมและหาประสบการณ์ทำงานในต่างประเทศ วีซ่านี้สามารถต่ออายุได้สูงสุดอีก 2 ครั้ง หากทำงานในบางอุตสาหกรรมในพื้นที่ภูมิภาค ตามเงื่อนไขเวลาที่กำหนด วีซ่าประเภทนี้ได้รับความนิยมอย่างมากในกลุ่มคนไทย ช่วงอายุ 18-30 ปี เพราะไม่ต้องมีนายจ้างสปอนเซอร์ล่วงหน้า และเป็นวิธีที่เข้าถึงได้ง่ายกว่าวีซ่าทักษะอื่นๆ แม้ว่าจะมีโควต้าจำกัดในแต่ละปี แต่ก็เป็นที่ต้องการสูงมากจนโควต้ามักจะเต็มเร็ว

 

5. วีซ่าฝึกงานและพัฒนาทักษะ (Training Visa – subclass 407)

เป็นวีซ่าชั่วคราวของออสเตรเลียที่อนุญาตให้บุคคลจากต่างประเทศเดินทางเข้ามาในออสเตรเลียเพื่อเข้าร่วมโปรแกรมการฝึกอบรมสายอาชีพหรือการพัฒนาวิชาชีพในสถานที่ทำงาน โดยทั่วไปวีซ่านี้มีอายุสูงสุด 2 ปี ต้องได้รับการสปอนเซอร์จากองค์กรหรือบริษัทในออสเตรเลีย

 

6. วีซ่าเฉพาะทางอื่นๆ (Specialised Visas)

นอกจากนี้ ยังมีวีซ่าทำงานประเภทอื่นๆ ที่มีความเฉพาะเจาะจง เช่น วีซ่าสำหรับนักลงทุน (Investor Visa), วีซ่าสำหรับนักกีฬา (Sportsperson Visa) , วีซ่าสำหรับผู้ประกอบการ (Business Innovation and Investment Visa) เป็นต้น

 

photo by freepik.com

photo by freepik.com

การขอวีซ่าทำงานออสเตรเลียอาจดูซับซ้อน แต่หากทำตามขั้นตอนอย่างเป็นระบบก็จะสำเร็จได้ไม่ยาก โดยมีขั้นตอนหลักๆ ดังนี้

1. ตรวจสอบคุณสมบัติและเลือกประเภทวีซ่าที่เหมาะสม

ขั้นแรกที่สำคัญที่สุดคือการศึกษาข้อมูลเกี่ยวกับวีซ่าแต่ละประเภทอย่างละเอียด เพื่อดูว่าคุณสมบัติของคุณตรงกับวีซ่าประเภทใดมากที่สุด เช่น คุณวุฒิการศึกษา ประสบการณ์ทำงาน อายุ ความสามารถทางภาษาอังกฤษ (มักจะต้องสอบ IELTS หรือ PTE) และอาชีพของคุณอยู่ในรายชื่ออาชีพที่ออสเตรเลียต้องการหรือไม่

2. ประเมินทักษะ (Skill Assessment)

สำหรับวีซ่าทักษะหลายประเภท คุณจะต้องผ่านการประเมินทักษะโดยหน่วยงานประเมินที่ได้รับการยอมรับจากรัฐบาลออสเตรเลีย (Assessing Authority) เพื่อยืนยันว่าคุณมีทักษะและประสบการณ์ตรงตามมาตรฐานของออสเตรเลีย

3. การแสดงความสนใจ (Expression of Interest - EOI)

สำหรับวีซ่าทักษะอิสระ (subclass 189) และวีซ่าที่ได้รับการเสนอชื่อโดยรัฐ/มณฑล (subclass 190) คุณจะต้องยื่น EOI ผ่านระบบ SkillSelect โดยการกรอกข้อมูลส่วนตัว คุณสมบัติ และทักษะ เพื่อให้ระบบประเมินคะแนนของคุณ หากคะแนนถึงเกณฑ์และคุณสมบัติเป็นที่ต้องการ คุณก็จะได้รับคำเชิญให้ยื่นขอวีซ่า (Invitation to Apply – ITA)

4. หานายจ้างที่พร้อมสปอนเซอร์ (สำหรับวีซ่าแบบมีสปอนเซอร์)

หากคุณสนใจวีซ่าประเภทที่ต้องมีนายจ้างสปอนเซอร์ คุณจะต้องหางานและให้นายจ้างชาวออสเตรเลียยื่นเรื่องขอสปอนเซอร์ให้คุณ ซึ่งนายจ้างจะต้องแสดงให้เห็นว่าไม่สามารถหาแรงงานชาวออสเตรเลียที่มีคุณสมบัติตรงกับตำแหน่งนั้นได้

5. รวบรวมเอกสารประกอบการพิจารณา

เตรียมเอกสารที่จำเป็นทั้งหมดอย่างครบถ้วนและถูกต้อง เช่น สำเนาหนังสือเดินทาง, ใบรับรองการศึกษา, หลักฐานประสบการณ์ทำงาน, ผลสอบภาษาอังกฤษ, เอกสารประเมินทักษะ (ถ้ามี), ประวัติอาชญากรรม (Police Check), และผลการตรวจสุขภาพ

6. ยื่นคำขอวีซ่าออนไลน์

เมื่อเอกสารพร้อม คุณสามารถยื่นคำขอวีซ่าผ่านระบบออนไลน์ของกระทรวงมหาดไทยออสเตรเลีย (Department of Home Affairs) ชำระค่าธรรมเนียม และอัปโหลดเอกสารทั้งหมด

7. การสัมภาษณ์ (ถ้ามี)

ในบางกรณี เจ้าหน้าที่อาจเรียกสัมภาษณ์เพื่อขอข้อมูลเพิ่มเติมหรือยืนยันรายละเอียดต่างๆ

8. รอผลการพิจารณา

หลังจากยื่นเอกสารครบถ้วนแล้ว คุณจะต้องรอผลการพิจารณา ซึ่งระยะเวลาการพิจารณาจะแตกต่างกันไปในแต่ละประเภทวีซ่า และขึ้นอยู่กับปริมาณคำขอในช่วงเวลานั้นๆ คุณสามารถตรวจสอบสถานะคำขอได้จากบัญชีออนไลน์ของคุณ

 

แหล่งข้อมูลหลักและน่าเชื่อถือที่สุดสำหรับการขอวีซ่าทำงานในประเทศออสเตรเลียคือ เว็บไซต์อย่างเป็นทางการของกระทรวงมหาดไทยออสเตรเลีย (Australian Department of Home Affairs)

บนเว็บไซต์นี้ คุณจะพบข้อมูลที่ถูกต้องและเป็นปัจจุบันที่สุด เกี่ยวกับประเภทวีซ่าทำงานทั้งหมด รวมถึง subclass ต่างๆ และรายละเอียดของแต่ละประเภท (เช่น Subclass 482, 186, 189, 190, 494, 417/462, 407, 858) , คุณสมบัติและเงื่อนไขสำหรับแต่ละวีซ่า, รายชื่ออาชีพที่เป็นที่ต้องการ (Skilled Occupation List) ซึ่งเป็นสิ่งสำคัญมากสำหรับวีซ่าทักษะ รวมไปถึงขั้นตอนการยื่นขอวีซ่า: รวมถึงเอกสารที่จำเป็น ค่าธรรมเนียม และระยะเวลาการพิจารณา

 

ก่อนจบบทความไป มีข้อควรรู้เพิ่มเติมอีก 3 ข้อ

  1. อย่าลืมปรึกษาผู้เชี่ยวชาญ หากคุณไม่แน่ใจในขั้นตอนหรือคุณสมบัติของวีซ่า แนะนำให้ปรึกษาตัวแทน Migration Agent ที่ขึ้นทะเบียนกับรัฐบาลออสเตรเลีย (Registered Migration Agent) เพื่อขอคำแนะนำที่ถูกต้องและเหมาะสม
  2. กฎระเบียบและข้อกำหนดเกี่ยวกับวีซ่าของออสเตรเลียมีการเปลี่ยนแปลงอยู่เสมอ ควรตรวจสอบข้อมูลล่าสุดจากเว็บไซต์ทางการของกระทรวงมหาดไทยออสเตรเลีย (Department of Home Affairs) เสมอ
  3. ความสามารถทางภาษาอังกฤษเป็นสิ่งสำคัญมาก สำหรับการทำงานและการใช้ชีวิตในออสเตรเลีย การมีทักษะภาษาอังกฤษที่ดีจะช่วยเพิ่มโอกาสในการได้งานและประสบความสำเร็จในการขอวีซ่า