
สวัสดีชาว ThaiBrisbane กันอีกครั้ง มาอยู่ต่างบ้านต่างเมืองแบบนี้ แน่นอนว่าเรื่องภาษาคือกำแพงด่านแรกที่เราต้องทำลายมันทิ้ง แม้ว่าอาจจะกล้าๆกลัวๆในตอนแรก เพราะไม่เคยมีเพื่อนต่างชาติล้อมรอบตัวขนาดนี้มาก่อนในชีวิต แต่ไม่ต้องกลัว ทุกสิ่งใหม่ต้องมีการเริ่มต้น ยิ่งยุคนี้มีเทคโนโลยีทันสมัย สามารถช่วยพัฒนาสกิลภาษาอังกฤษของเราได้ง่ายขึ้น แถมเร็วขึ้นอีก วันนี้เรามาดูกันว่ามีเทคนิคหรือวิธีไหนบ้าง ที่ให้เราเข้าใจภาษาบ้านเค้าได้อย่างรวดเร็วกันบ้าง
1. อ่าน อ่าน และอ่าน!
ทักษะเบื้องต้นที่ใครหลายคนฝึกฝนกันมาตั้งแต่วัยเยาว์ นั่นคือ ”การอ่าน” เพราะสิ่งของใกล้ตัวเรามักมีภาษากำกับ จงหยิบทุกอย่างที่เป็นภาษาอังกฤษมาอ่าน และทำความเข้าใจซะ ตั้งแต่หนังสือพิมพ์, นิตยสาร, email จนไปถึงรายละเอียดข้างกล่องนม สิ่งที่ได้จากการอ่าน นอกจากจะได้ฝึกแปลภาษาแล้ว หลายครั้งเราจะได้เรียนรู้คำศัพท์ใหม่ๆ ที่เคยไม่เจอมาก่อนอีกด้วยนะ ซึ่งนำไปสู่ Step ต่อมา..
2. จดสั้นๆ ทำเป็นนิสัย
ทุกครั้งที่เราค้นพบคำศัพท์ วลี หรือสำนวนใหม่ๆ อย่าลืมที่จะ จด! พกสมุดจดเล็กๆ หรือหยิบโทรศัพท์ของเราขึ้นมาทดไว้ เขียนลงเข้าไปทุกวัน อย่างน้อยหาคำศัพท์ใหม่วันละคำ นอกจากจดคำศัพท์แล้ว เราจะพัฒนาสกิลเราขึ้นไปได้อีก หากเขียนคำอธิบายเป็นภาษาอังกฤษ ยิ่งช่วยสร้างความเข้าใจยิ่งขึ้นอีกด้วย
3. พูดคุยกับเจ้าของภาษาตัวจริง
มาถึงประเทศเจ้าของภาษาทั้งที เก็บความเขินอายไว้ที่บ้านซะ โชว์ความมั่นใจในการพูดภาษาอังกฤษกับคนที่นี่กันเถอะ เริ่มต้นจากการพูดคุยกับผู้คนรอบตัว เวลาเราออกไปซื้อของข้างนอก ถามคำถามสั้นๆกับเค้า สร้างประโยคสนทนากันสักหน่อย ขยับขึ้นมา ลองพูดคุยกับเพื่อนชาวต่างชาติให้มากยิ่งขึ้น ถามไถ่สารทุกข์สุขดิบ ความชอบ งานอดิเรก หรือถ้าอยากจะเปิดโลก ลองเข้ากลุ่มเพื่อนชาวต่างชาติดู อย่างในเว็บไซด์ Meetup.com ที่รวมผู้คนหลากหลายสัญชาติ หลากหลายอายุ มาร่วมทำกิจกรรมในสิ่งที่เราสนใจด้วยกัน เชื่อเถอะ ผู้คนที่นี่ใจดี เป็นมิตร น่ารักทั้งนั้น
4. เรียนรู้จากช่องทางสื่อ Online
เชื่อว่าทุกคนต้องมีโทรศัพท์มือถือ โดยเฉพาะ Smart Phone หรือ Tablet กันอยู่แล้ว อย่าใช้มันเพื่อความสนุก หรือแค่การเล่นโซเชียล ถ่ายรูปอย่างเดียว เราสามารถใช้เจ้าอุปกรณ์เหล่านี้เรียนรู้ภาษาได้ง่ายกว่าที่คิด ช่องทางแรกที่เป็นที่นิยมเลย นั่นคือ YouTube ยิ่งช่วงนี้หลายสื่อเริ่มเปิด Channel ของตัวเอง โดยเฉพาะคลิปสอนภาษา หากใครไม่มีเวลาเปิดดู เราขอแนะนำเครื่องมือต่อมา นั่นคือ Podcast หรือจะเรียกว่าวิทยุออนไลน์ เราสามารถค้นหาคลิปเสียงที่เกี่ยวกับการสอนภาษาได้มากมาย สามารถฟังได้ทุกที่ทุกเวลาตามที่เราต้องการ หลับตาฟังไปก็ยังได้ (แต่อย่าหลับจริงนะ) และอีกช่องทางนึงที่หลายคนอาจชื่นชอบที่สุด เพราะได้เพลิดเพลินไปด้วย นั่นคือ Netflix หรือการชมภาพยนตร์ ซีรีย์ ต่างๆ เน้นการเลือกชมที่เป็นภาษาอังกฤษนะ ดูครั้งแรกอาจจะเปิด Subtitle เป็นภาษาอังกฤษก่อน และครั้งที่สองลองปิดคำบรรยายข้างล่างและลองฟังสำเนียงดู เชื่อว่าวิธีนี้จะช่วยให้เราเข้าใจสำเนียงกับคำศัพท์ที่พูดได้เข้าใจยิ่งขึ้น ซึ่งเราแนะนำช่อง BBC เป็นรายการสอนภาษา และ Ted Talks เป็นคลิปการบรรยายจาก Speaker ในหัวข้อต่างๆที่น่าสนใจ จากผู้คนหลากหลายวงการ
5. ค้นหาความสนุกในการเรียนรู้ภาษา
อย่าลืมว่าการเรียนรู้อะไรสักอย่าง ไม่สามารถสร้างขึ้นได้เพียงไม่กี่วัน เสมือนกรุงโรมไม่ได้สร้างเสร็จในวันเดียว ทุกอย่างต้องใช้เวลา หากเราฝึกฝนด้วยความเคร่งเครียด เชื่อว่าผลลัพธ์คงออกมาได้ดีแน่ ดังนั้นอย่าไปกังวลกับมันจนเกินไป หารูปแบบการใช้ภาษาที่เราชื่นชอบ อย่างเช่นหากเราชื่นชอบฟังเพลง เราก็มาเรียนรู้คำศัพท์และสำเนียงจากบทเพลง หรือจะลองอ่านเนื้อเพลงต่อยอดจากการฟัง รวมไปถึงศึกษาเรื่องราวที่เราสนใจโดยเฉพาะ แต่ในสื่อทางต่างประเทศ เช่น Website การท่องเที่ยว, รายการดนตรี, ผลงานศิลปะ, Review ร้านอาหาร ฯลฯ เผลอๆได้สำนวนและคำศัพท์ใหม่ๆเพียบ
6. คิดและเขียนทุกอย่างให้เป็นภาษาอังกฤษ
หลังจากที่ Input ข้อมูลมาหลายช่องทาง ทั้งการอ่าน และการฟัง ถึงเวลาที่จะต่อยอดสู่การพูดและเขียน เริ่มต้นง่ายๆ ด้วยการสื่อสารกับเพื่อนต่างชาติโดยเฉพาะอย่างยิ่งการตอบ Chat กันในโลก Social Media จะมาพิมพ์ภาษาไทยตอบ เพื่อนคงได้แต่ งง เริ่มต้นฝึกการเขียนจากการสนทนาผ่านหน้าจอ จากจุดเริ่มต้นเล็กๆนี้ สามารถพัฒนาเป็นการเล่าเรื่องยาวๆ หรือเป็น Essay ก็ได้ในอนาคตนะ

7. กล้าที่จะถาม กล้าที่จะเริ่มต้นบทสนทนา
อยากฝึกภาษาให้เก่ง ไม่มีใครช่วยได้เท่ากับเราทำด้วยตัวเอง เริ่มต้นจากการตั้งคำถามง่ายๆ หรือเริ่มต้นบทสนทนาในชีวิตประจำวัน จะมารอคนอื่นคอยป้อนความรู้ให้เรา กว่าจะเก่งมีหวังรออีกยาว เริ่มตั้งแต่วันนี้ ลองยกมือถามในห้องเรียนเป็นคนแรกดู หรือการทำความรู้จักเพื่อนใหม่ ไม่แปลกที่เราจะเป็นคนที่เข้าหาก่อน ทักทายและสร้างความคุ้นเคยกับการคุยภาษาที่สอง ช่วยให้เราเรียนรู้ภาษาได้เร็วยิ่งขึ้น
8. ตั้งเป้าหมายความสำเร็จของการฝึกฝนครั้งนี้
สิ่งสุดท้าย สิ่งที่เรียกได้ว่าสำคัญที่สุดเลย คือการตั้งเป้าหมายของการเรียนภาษา บางคนตั้งเป้าหมายที่จะสอบ IELTS ให้ได้คะแนนที่ต้องการ หรือบางคนตั้งเป้าหมายแค่ในเรื่องการใช้งานในชีวิตประจำวัน ซึ่งทั้งสองแบบไม่มีใครผิดใครถูก แต่อย่างน้อยก็สามารถชี้วัดความเปลี่ยนแปลงได้อย่างชัดเจน เปิดดูหนังคราใด ไม่ต้องอ่าน Subtitle ให้เมื่อยสายตา
นี่คือส่วนหนึ่งของการฝึกภาษาที่สอง (หรือสาม) เชื่อว่าแต่ละคน คงมีเทคนิคการฝึกภาษาที่แตกต่างกัน ในช่วงแรกเชื่อว่านอกจากจะมึนงงในภาษาแล้ว อาจจะมีอาการท้อแท้บ้าง เป็นเรื่องปกติที่เราเรียนรู้อะไรใหม่ เราเองนอกจากต้องใช้ความพยายามแล้ว “เวลา” ก็เป็นสิ่งสำคัญที่ช่วยให้การเรียนรู้ของเราประสบความสำเร็จอีกด้วย ดังนั้น สู้ๆนะ Keep it Up!, You can do it
