
การเดินทางระหว่างเมืองในประเทศออสเตรเลีย ถ้าไม่ใช่ภายในตัวเมืองใหญ่ ถือเป็นเรื่องที่ไม่ค่อยสะดวกสบายสักเท่าไหร่ การมีรถยนต์สักคัน เป็นอีกสิ่งที่ทำให้ชีวิตดีขึ้นไม่ใช่น้อย แต่การเริ่มต้นจะซื้อรถยนต์สักคัน อาจจะเป็นเรื่องใหญ่สำหรับใครหลายคน (โดยเฉพาะด้านงบประมาณ) แต่ที่ออสเตรเลีย การเลือกซื้อรถยนต์มือสอง ถือเป็นอีกหนึ่งตัวเลือกที่น่าสนใจ ด้วยราคาที่จับต้องได้และมีแหล่งจำหน่ายที่น่าเชื่อถือ แน่นอนว่าจะซื้อของมือสองทั้งที ต้องมีการตรวจสอบมากกว่าปกติ เพื่อจะได้ไม่ต้องปวดหัวกับปัญหาค่าซ่อมที่ตามมา รวมถึงประวัติเบื้องหลังของรถยนต์ที่กำลังจะเป็นเจ้าของ
ใครบ้าง ที่สามารถซื้อรถมือสองได้?

Photo by Jorge Saavedra on Unsplash
หลายคนอาจมีคำถาม แล้วนักเรียนต่างชาติ หรือคนไทย ที่ไม่มีใบขับขี่ของออสเตรเลีย สามารถซื้อรถมือสองได้หรือไม่? คำตอบคือ ได้
โดยผู้ซื้อต้องมีการเตรียมเอกสารและมีเงื่อนไขต่างๆ ดังต่อไปนี้
โดยผู้ซื้อต้องมีการเตรียมเอกสารและมีเงื่อนไขต่างๆ ดังต่อไปนี้
- ผู้ซื้อต้องมีอายุ 18 ปีเป็นต้นไป
- เอกสารได้แก่ ใบขับขี่ไทยหรือใบขับขี่สากล, หนังสือเดินทาง, ประเภทวีซ่าที่ถือ และสถานที่ติดต่อถาวรในออสเตรเลีย
- หลักฐานทางการเงิน เช่น สลิปเงินเดือน, สมุดบัญชี ซึ่งอาจใช้ในการจัดการด้านการเงิน
พร้อมแล้ว ต่อมาถึงเวลาเลือกซื้อรถ

Photo by freepik
การซื้อรถยนต์มือสอง มีสองตัวเลือกหลัก คือ เลือกซื้อกับตัวแทนจำหน่ายฯ (Dealership) ที่ชาวออสซี่เรียกแสลงว่า "Car Yard” หรือ เลือกซื้อกับผู้ขายส่วนตัว
ข้อดีสำหรับการเลือกซื้อกับตัวแทนจำหน่ายรถยนต์ แม้ว่าราคาจะสูงกว่า เพราะมีผู้เชี่ยวชาญคอยให้คำแนะนำและช่วยเหลือได้ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องการตรวจสภาพรถยนต์, การเดินเรื่องเอกสารต่างๆ ทั้งด้านการโอนกรรมสิทธิ์ การเงิน รวมไปถึงประกันรถยนต์ ดังนั้นหากไม่มั่นใจ แนะนำให้เลือกซื้อกับร้านตัวแทนฯที่เชื่อถือได้จะดีกว่า
หรือถ้าเป็นการประกาศขายส่วนตัว แน่นอนว่าข้อดีของการซื้อขายแบบนี้ อาจให้ราคาดีกว่าตัวแทนจำหน่ายรถยนต์ แต่ขาดเรื่องการตรวจสอบรถยนต์, การรับประกัน รวมถึงการช่วยเหลืออื่นๆหลังซื้อ ดังนั้นผู้ซื้ออย่าง จำเป็นอย่างยิ่งที่ต้องพูดคุยกับเจ้าของได้โดยตรง เช่น การสอบถามการใช้งานโดยละเอียด, เหตุผลที่ต้องการขายรถคันนี้ รวมถึงประวัติการซ่อมแซมที่ผ่านมา เพื่อได้มั่นใจว่ารถยนต์ที่กำลังจะซื้อไป ไม่มีประวัติการถูกโจรกรรมและไม่ค้างหนี้ชำระติดพันอยู่
สิ่งที่ต้องตรวจสอบรถเบื้องต้น
ตรวจสอบเลขรถ เลขทะเบียน และ Warranty : สิ่งสำคัญที่สุดอันดับแรก คือการตรวจสอบว่าหมายเลข VIN หรือประวัติรถจากหมายเลขตัวถังรถ (Vehicle Identification Number) ที่ปรากฎบนตัวรถ ตรงกับหมายเลข VIN ในเอกสารทะเบียนรถยนต์และบันทึกการขับขี่ (logbook) หรือไม่ หากไม่ตรงกันอาจหมายความว่ารถคันนี้หรือชิ้นส่วนรถอาจถูกขโมยมา VIN อยู่บนแผ่นสีเงินเล็กๆ ซึ่งมักจะอยู่ที่มุมด้านหลังของห้องเครื่อง หรือที่ฐานของกระจกบังลม

Photo by youtube.com/@NSWFT

Photo by youtube.com/@NSWFT
หมายเลข VIN เหมือนลายนิ้วมือของรถ สามารถใช้เช็คประวัติเรียกตรวจสอบโดยผู้ผลิต การจดทะเบียนรถ, การเคลมประกัน รวมไปถึงประวัติการโจรกรรมและความคุ้มครองภายใต้ประกันภัยรถยนต์ได้ กรณีซื้อรถยนต์มือสองจากเจ้าของรถเป็นการส่วนตัว หมายเลข VIN เป็นเครื่องมือที่ดีที่สุดในการตรวจสอบว่า รถคันดังกล่าวยังมีหนี้ค้างชำระผูกพันอยู่หรือไม่

Photo by youtube.com/@NSWFT
ตรวจสอบสภาพรถยนต์ : คงจะแย่ ถ้ารับรถมือสองไปแล้ว ต้องพบกับปัญหาการซ่อมแซมอีกมากมายนับไม่ถ้วน ต่อไปนี้จะเป็นจุดสังเกตโดยคร่าว สำหรับที่คนไม่เก่งรถ ก็สามารถเช็คสภาพก่อนได้เบื้องต้น
- ตรวจสอบภายนอกรถ เช็คสภาพสีรถทั้งบนตัวรถและหลังคา สังเกตรอยขีดข่วน รอยบุบ และสนิม
- ตรวจดูใต้ท้องรถ หาร่องรอยรั่วซึมของน้ำมันเครื่อง น้ำยาหล่อเย็น หรือจุดรั่วอื่น ๆ ซึ่งอาจเป็นสัญญาณว่าต้องซ่อมแซม
- สังเกตลักษณะยางล้อรถยนต์ หากสึกหรอไม่สม่ำเสมอหรือผิดปกติ อาจสื่อถึงปัญหาเกี่ยวกับการตั้งศูนย์ล้อรถหรือระบบช่วงล่าง
- ตรวจสอบระดับน้ำมันเครื่องด้วยก้านวัดน้ำมันเครื่อง ก่อนและหลังทดลองขับรถ โดยปกติก้านวัดน้ำมัน ต้องมีน้ำมันที่สะอาด เป็นสีน้ำผึ้งไม่ใช่สีดำ และน้ำหล่อเย็นในหม้อน้ำ (Radiator coolant) ลองถอดฝาหม้อน้ำเมื่อเครื่องยนต์เย็น สารหล่อเย็นควรสะอาดและมีสีสันสดใส โดยทั่วไปจะเป็นสีเขียวหรือสีแดง
- สตาร์ทรถขณะเครื่องเย็น หากมีควันกลิ่นแรง มีสีดำ, สีน้ำเงิน หรือสีขาวจากท่อไอเสีย เป็นพิเศษ หรือการเกิดเสียงไอเสียที่ดังเกินไป หรือรู้สึกถึงเสียงเคาะจากใต้ท้องรถ อาจบ่งชี้ปัญหาเครื่องยนต์ที่ต้องเสียค่าซ่อมอีกมาก ควันสีดำ อาจบ่งชี้ได้ว่าเครื่องยนต์มีปัญหาระบบไอเสีย
- จำนวนเลขกิโลเมตรของรถยนต์ สามารถบอกสภาพและอายุการใช้งานได้ จำนวนเลขที่ต่ำ มักจะสึกหรอน้อยกว่าเลขที่มาก แต่อย่างไรก็ดี อย่าลืมตรวจสอบประวัติการซ่อมรถยนต์ด้วยเช่นกัน เพื่อให้แน่ใจว่ารถได้รับการดูแลตามปกติ
- ตรวจระบบใช้งานภายในรถทั้งหมด ไม่ว่าจะเป็นเข็มขัดนิรภัย, ระบบไฟหน้า-หลัง รอบคัน, ระบบแอร์, กระจกข้าง-หลัง, เซนเซอร์ถอยรถ ฯลฯ
- เมื่อเช็คภายนอกอย่างมั่นใจแล้ว อย่าลืมที่จะออกไป Test Drive หรือทดลองขับบนถนนจริง เพื่อทดสอบน้ำหนักการออกตัวที่ราบรื่น รวมถึงได้ตรวจสอบเสียงภายในตัวรถทั้งระบบเบรคและเกียร์ที่ต้องเงียบ ไม่มีเสียงและเครื่องยนต์ไม่สั่นผิดปกติ
เมื่อเลือกรถยนต์ได้แล้ว ขั้นตอนที่สำคัญต่อไปคือ เรื่องการเงิน การซื้อรถยนต์ที่นี่ ไม่จำเป็นต้องจ่ายเป็นเงินสดเป็นก้อนเพียงอย่างเดียว หากคุณเลือกซื้อกับดีลเลอร์ สามารถเลือกการชำระเงินที่เหมาะสมกับคุณ ไม่ว่าจะเป็น เข้าระบบสินเชื่อรถยนต์หรือสินเชื่อส่วนบุคคลแบบมีดอกเบี้ย, เข้าไฟแนนซ์, ระบบเงินกู้ ที่บริษัทตัวแทนจำหน่าย เสนอให้กับคุณแบบที่มีหลักประกันและไม่มีหลักประกัน เป็นต้น ดังนั้นควรเลือกรถยนต์ ที่มีราคาเหมาะสมกับกระเป๋าสตางค์ของคุณ
ได้รถที่ถูกใจ ต่อไปคือใช้งานอย่างเหมาะสม

Photo by Anrita from Pixabay
เมื่อได้รับรถมือสองเป็นที่เรียบร้อย โดยเฉพาะการซื้อกับผู้ขายเป็นการส่วนตัว สิ่งสำคัญก่อนขับออกจากบ้าน คือการจดทะเบียนรถในรัฐของคุณ เพื่อเป็นตามกฎหมายและข้อกำหนดด้านความปลอดภัยในท้องถิ่น กระบวนการลงทะเบียนอาจแตกต่างกันเล็กน้อยระหว่างรัฐ โดยในรัฐควีนส์แลนด์สามารถเข้าไปลงทะเบียนและอ่านรายละเอียดต่อได้ที่
https://www.qld.gov.au/transport/registration/register/vehicle
รวมถึงการซื้อการประกันภัยบุคคลที่สาม หรือ CTP (Compulsory Third Party) ซึ่งคุ้มครองเจ้าของและผู้ขับขี่รถยนต์ สำหรับความรับผิดทางกฎหมาย อันเกิดจากการทำให้บุคคลอื่นได้รับบาดเจ็บ แต่ CCTP ไม่ใช่ประกันที่คุ้มครองความเสียหายรถยนต์ ซึ่งตรงนั้นแยกกัน
ระหว่างการใช้งานรถยนต์มือสอง นอกจากการความสะอาดภายนอกและภายในอย่างต่อเนื่องแล้ว อย่าลืมที่จะหมั่นตรวจเช็คระบบเครื่องยนต์เป็นประจำ เพื่อช่วยยืดอายุการใช้งานของยานพาหนะของคุณ ไม่ว่าจะเป็น การเช็คแรงดันลมยาง, เปลี่ยนถ่ายน้ำมันเครื่อง, การเปลี่ยนไส้กรอง, ตรวจสอบระดับของเหลว เช่นระดับน้ำมันเครื่อง, น้ำหล่อเย็น, น้ำมันเบรก และน้ำมันพวงมาลัยเพาเวอร์ รวมถึงหากเกิดความผิดปกติระหว่างขับขี่ ไม่ว่าจะเสียงแปลกๆ หรือมีไฟเตือนการทำงานบางอย่างขัดข้อง โปรดรีบซ่อมแซมให้เร็วที่สุด ก่อนที่อาการจะลุกลามไปยังส่วนอื่นๆภายในรถยนต์
ถึงแม้ว่าประเทศออสเตรเลียจะอนุญาตให้ชาวต่างชาติ ให้สามารถซื้อรถยนต์ในออสเตรเลียได้ แต่ก็อย่าลืมที่จะศึกษากฎหมายในการขับขี่ที่ต้องปฏิบัติตาม รวมถึงการทำความเข้าใจข้อกำหนดทั้งหมด ตั้งแต่กระบวนการซื้อรถยนต์ กฎการจดทะเบียน การประกันภัย สิ่งสำคัญที่สุด คือการเลือกรถที่เหมาะกับความต้องการและความชอบของคุณ เมื่อคำนึงถึงข้อพิจารณาเหล่านี้แล้ว คุณสามารถซื้อรถยนต์ได้อย่างถูกกฎหมาย และเพลิดเพลินกับการเดินทางไปท่องเที่ยวในออสเตรเลียได้อย่างมั่นใจ
อ้างถึง
www.cmitoyota.com.au
www.sbs.com.au
www.upmove.com.au
www.mynrma.com.au
www.publications.qld.gov.au