หากพูดถึงการศึกษาต่อต่างประเทศ ออสเตรเลียนับคือหนึ่งในจุดหมายยอดนิยมไม่แพ้อังกฤษหรือสหรัฐฯ ทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติ ต่างเลือกที่จะใช้ชีวิตต่อ 1-2 ปี หรือยาวนานกว่านั้น เหตุผลหลักคือเรื่องคุณภาพของการศึกษาที่ดี
ออสเตรเลียนับเป็นประเทศที่มีมหาลัยที่มีคุณภาพชั้นนำ ที่ถูกจัดอันดับเป็นมหาลัยที่ดีที่สุดอันดับๆของโลก ทำให้หลายคนที่ไม่ว่าจะเป็นคนไทยหรือชาวต่างชาติ ต่างเลือกที่จะมาศึกษาต่อในประเทศออสเตรเลีย ไม่ว่าจะเป็นทั้งแบบระยะสั้นหรือระยะยาว และยังมีเหตุผลอื่นๆที่ผู้คนต่างเลือกที่จะมายังประเทศนี้ มาทำความเข้าใจระบบการศึกษาของประเทศออสเตรเลียกันให้มากยิ้งขึ้น ในบทความนี้เลย

ระดับการศึกษาในภาพรวม


Photo by svklimkin from Pixabay

เริ่มต้นกันที่ Early Childhood Education (Preschool) ระดับชั้นแรกเริ่ม สำหรับเด็กที่มีอายุ 4-5 ปี ที่มุ่งเน้นไปกับการเล่น, การสร้างสังคมและมีปฏิสัมพันธ์ร่วมกันภายในกลุ่มอายุเดียวกัน

Primary School หรือชั้นประถม สำหรับเด็กอายุ 6-12 ปี เมื่อโตขึ้นเริ่มโฟกัสพื้นฐานการศึกษา เช่นหลักสูตรภาษาอังกฤษ คณิตศาสตร์วิทยาศาสตร์และสังคม รวมไปถึงศิลปะ

Secondary School หรือระดับชั้นมัธยม ที่จะศึกษาเจาะลึกลงไปในสายวิชาการ หรือสายอาชีพที่ผู้เรียนสนใจเป็นพิเศษ



Photo by StockSnap from Pixabay

Tertiary Education หรือระดับชั้นหลังมัธยม ที่ใครหลายคนทราบคือระดับอุดมศึกษาที่ศึกษาในมหาวิทยาลัย แต่ในออสเตรเลีย มีระดับการเรียนที่แยกย่อยลงไปมากกว่านั้น

  • Certificate 1 และ 2
: หลังเรียนจบชั้นมัธยม หากผู้เรียนสนใจในสายอาชีพที่เกี่ยวข้องด้านการบริการลูกค้า ร้านอาหาร และสายทักษะแรงงานอาชีวะ สามารถลงเรียนคอร์สระยะสั้นเพียงไม่กี่เดือนแบบนี้ได้

  • Certificate 3 และ 4
: เป็นการเรียนที่เจาะลึกลงไปในสายอาชีพที่จะทำ เช่น พยาบาล, เชฟ, ช่างไฟฟ้า หรือช่างเทคนิคด้าน IT

  • Diploma
: หรือถ้าคนไทยจะเรียกว่าอนุปริญญา เป็นระดับการศึกษาที่ใช้เวลาหนึ่งถึงสองปี โดยจะเรียนลงลึกในเรื่องทักษะและความรู้ ของสายงานที่กำลังจะทำมากขึ้น เช่น อาชีพครูอนุบาล, กราฟิกดีไซน์เนอร์, นักบัญชี

  • Advanced Diploma และ Associate Degree
: เป็นการเรียนหลังจากจบอนุปริญญาเพิ่มอีกสองปี เฉพาะสายอาชีพที่มีความจำเป็นทีต้องเรียนขั้นสูง เช่น สายวิศวกรรม, Computer Science หรือ งานด้านสื่อสารมวลชน ซึ่งสามารถโอนทักษะต่อไปยังระดับปริญญาตรีได้

หลังจากนั้นไป ก็จะเป็นระดับอุดมศึกษาที่ทราบกันเป็นอย่างดี ได้แก่ ปริญญาตรี (Bachelor Degree) มีอีกชื่อที่เรียกว่า Undergraduate , ปริญญาโท (Master Degree) และ ปริญญาเอก (PhD) ที่เรียกรวมว่า Postgraduate


Photo by Pexels from Pixabay

หากคุณมีบุตรหลานที่ไม่ใช่พลเมืองออสเตรเลีย แต่ต้องการให้เค้าได้เรียนในประเทศนี้ บอกเลยว่าไม่ต้องกังวล หากเด็กอายุเกิน 5 ปี (ขั้นต่ำในการเข้า Preschool) แต่ไม่เกิน 18 ปี รัฐบาลสามารถออกวีซ่านักเรียนให้สำหรับเด็กได้ ส่วนผู้ปกครองหรือผู้ติดตาม ต้องมีอายุเกิน 21 ปี และมีความพร้อมทั้งด้านการดูแลและทุนทรัพย์ ก็สามารถออกวีซ่าติดตามมาได้ เมื่อเด็กอายุเกิน 18 ปี จำเป็นต้องดำเนินการขอวีซ่านักเรียนด้วยตัวเองต่อไป หากต้องการ


สถาบันชั้นนำที่ได้รับการยอมรับระดับโลก


Photo by unimelb.edu.au

ในทุกปีคุณอาจจะเห็นการจัดอันดับมหาวิทยาลัยที่ดีที่สุดในโลก 100 อันดับ ในปี 2024 นี้มีหลายสถาบันในออสเตรเลียที่ถูกจัดอันดับเช่นกัน อ้างอิงจาก QS World University Rankings ได้แก่มหาลัยฯต่อไปนี้

University of Melbourne ถูกจัดอันดับที่ 14 ของโลก เป็นมหาลัยฯที่ดีที่สุดในออสเตรเลีย สาขาอันโด่งดังมีมากถึง 14 สาขา มีทั้งศิลปศาสตร์และมนุษยศาสตร์, ด้านกฎหมาย, ด้านสาธารณสุข และด้านครุศาสตร์

University of Sydney และ University of New South Wales (UNSW Sydney) ทั้งสองสถาบันถูกจัดอันดับมหาลัยที่ดีที่สุดอันดับ 19 โดดเด่นด้านการทำวิจัย โดยเฉพาะระดับ Postgraduate

Australian National University (ANU) ตั้งอยู่ที่ Canberra เมืองหลวงของประเทศ เด่นดังในด้านกฎหมายและความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ จึงถูกจัดให้อยู่ในอันดับ 34 ของโลก

University of Queensland (UQ) รัฐคลีนส์แลนด์ของเราก็ไม่น้อยหน้า กับอันดับ 43 ของโลก ใครที่อยากศึกษาต่อด้านธุรกิจ, วิศวกรรม และการแพทย์ มหาลัยฯนีมีชื่อเสียงด้านเหล่านี้โดยเฉพาะ

Monash University มหาลัยฯที่มีแคมปัสอยู่หลายแห่ง ทั้งในเมลเบิร์น, Clayton และ Gippsland สาขาโด่งดังได้แก่ ด้านวิศวกรรม, กฎหมาย และ การแพทย์ ถูกจัดในอันดับ 42 ของโลก

การได้มาซึ่งคุณภาพการศึกษาทีดี บางทีก็ไม่ใช่เรื่องง่าย นอกจากจะต้องผ่านการทดสอบทักษะขั้นพื้นฐานแล้ว ทุนทรัพย์ก็เป็นอีกปัจจัยที่ทำให้นักเรียนต่างชาติเข้าถึงการศึกษาในออสเตรเลียได้ไม่ง่ายดายนัก แล้วทำไมผู้คนต่างอยากมาศึกษาต่อในประเทศออสเตรเลีย?


ทำไมการศึกษาในออสเตรเลียถึงดีกว่าที่อื่นๆ


Photo by Naassom Azevedo from Pixabay

มีเหตุผลหลายประการ ว่าทำไมการศึกษาในออสเตรเลียถึงมีคุณภาพ และได้การยอมรับจากหลายประเทศทั่วโลกมาอย่างต่อเนื่องและยาวนาน

ไม่ว่าจะเป็นการมีแผนการเรียนการสอนที่แข็งแรง โฟกัสกับการลงมือทำและเนื้อหาสอน อีกทั้งยังมีการปรับหลักสูตรใหม่ให้สอดคล้องกับยุคสมัย สามารถต่อยอดในการทำอาชีพได้จริงในอุตสาหกรรมแรงงาน ไม่ใช่แค่ในออสเตรเลีย แต่ในอีกหลายประเทศทั่วโลกที่ต้องการทักษะเหล่านี้
นอกจากนี้ประเทศยังมีหน่วยงานของรัฐ ที่วางแผน, ตรวจสอบ และควบคุมหลักสูตรการสอน เช่น หน่วยงานที่มีชื่อว่า The Australian Curriculum, Assessment and Reporting Framework (ACARA) และ The Australian Qualifications Framework (AQF) เป็นต้น

ที่สำคัญคือตัวเลือกของการเรียนที่มีค่อนข้างหลากหลาย เหมาะกับความต้องการแต่ละบุคคล ตั้งแต่ระดับปริญญามหาวิทยาลัย, TAFE (Technical and Further Education) และ VET (Vocational Education and Training) เต็มไปด้วยหลักสูตรที่มุ่งเน้นไปทางด้านสายวิชาชีพ, สถาบันการศึกษาเอกชน อย่างการเรียนภาษาอังกฤษ เพื่อต่อยอดการศึกษา หรือหากผู้เรียนมีความสนใจในเรื่องเฉพาะเจาะจง ที่สถาบันส่วนใหญ่ไม่มี ก็สามารถหาได้ที่ออสเตรเลีย อีกปัจจัยคือความหลากหลายของผู้เรียนที่มาจากทั่วทุกมุมโลก ทำให้เกิดการแลกเปลี่ยนประสบการณ์ ช่วยสร้างสภาพแวดล้อมในการเรียนรู้ได้ดีกว่า


Photo by Ronald Carreño from Pixabay

หากพูดถึงปัจจัยภายนอก รัฐบาลออสเตรเลียเองได้ลงทุนกับอุตสาหกรรมการศึกษาอย่างจริงจัง และให้ความสำคัญกับผู้เรียนค่อนข้างมาก ไม่ว่าจะเป็นการปรับเปลี่ยนหลักสูตรให้เหมาะสม อีกทั้งยังสนับสนุนนักเรียนจากต่างชาติ ได้รับโอกาสในการศึกษาไม่แพ้กับประชากรในประเทศ ไม่ว่าจะเป็นการสนับสนุนเรื่องทุนการศึกษา รวมไปถึงรูปแบบคอร์ส ที่มีทั้งแบบระยะสั้น และพยายามตอบโจทย์งบประมาณและเวลาของผู้เรียนที่มีจำกัด หรือในบางหลักสูตรไม่มีการจำกัดอายุ และประสบการณ์ทำงานอีกด้วยซ้ำ

หลายๆมหาลัยเอง ยังได้จับมือกับภาคอุตสาหกรรมที่เกี่ยวข้อง เพื่อให้ผู้ที่เรียนมีโอกาสเรียนรู้ประสบการณ์ทำงานจริง ผ่านการฝึกงาน จบหลักสูตรไป จึงมีโอกาสทำงานได้ตรงกับสายที่เรียนได้มากกว่า

ในส่วนของปัจจัยอื่นๆ ที่อาจเกี่ยวข้อง นั่นคือการดำรงชีวิตในประเทศ ในช่วงที่กำลังศึกษาผู้เรียนมีโอกาสทำงานได้อย่างถูกต้องตามกฏหมาย (ในชั่วโมงที่จำกัด) ด้วยวีซ่านักเรียน ทำให้สามารถจับจ่ายและวางแผนการใช้ชีวิตในประเทศได้อย่างไม่ต้องกังวลจนจบการศึกษา อีกทั้งยังมีวีซ่าพิเศษสำหรับผู้ที่เรียนจบระบบ Postgraduate ที่สามารถหางานต่อได้ในประเทศอีกระยะหนึ่ง ซึ่งเป็นบันไดไปสู่การขอยื่น PR และ Citizenshipในอนาคต


Photo by Mariya from Pixabay

อีกทั้งสังคมและผู้คนในออสเตรเลียที่ค่อนข้างปลอดภัย บ้านเมืองมีกฎระเบียบชัดเจน ทำให้ใช้ชีวิตได้อย่างไม่ต้องกังวลใจผู้ปกครองหายห่วง ที่สำคัญคนไทยและชาวเอเชียอย่างเรา ได้เข้ามาพำนักตั้งรกรากถาวรเป็นจำนวนมาก ทำให้เรื่องอาหารการกินนั้นไม่เป็นปัญหาเลย

อย่างไรก็ตาม การได้ศึกษาต่อในสถาบันที่ดีไม่ได้เป็นเครื่องการันตีถึงความสำเร็จในการหางานได้แต่ก็ไม่เป็นอุปสรรคสำหรับผู้ที่มีความตั้งใจ และมองหาโอกาสอยู่เสมอ

อ้างถึง

www.topuniversities.com

www.dfat.gov.au

www.studyaustralia.gov.au

www.goabroad.com