รู้หรือไม่? กับ 7 คำถามใกล้ตัวที่คุณอาจไม่รู้มาก่อน

  • 0 ตอบ
  • 622 อ่าน
*

พา-ลา-เล่น

  • *****
  • 46
  • "พา"คุณไป"ลา" และออกไป"เล่น"ในบริสเบน
    • ดูรายละเอียด



ใครที่ใช้ชีวิตอยู่ในบริสเบน ไม่ว่าจะมาเรียน มาทำงาน บางครั้งก็อาจมีคำถามเล็กๆกับสิ่งที่อยู่รอบตัว ที่ไม่ค่อยมีใครพูดถึง
วันนี้จะมานำเสนอ 7 เรื่องน่ารู้ ที่คุณรู้หรือไม่ ถ้าใครรู้อย่าลืมบอกต่อล่ะ


รู้หรือไม่?  ก่อนจะมาเป็นชื่อเมือง Brisbane ในอดีตเคยมีชื่อว่าอะไร




ที่มาภาพ : Photo by ROMAIN TERPREAU on Unsplash

      ครั้น John Oxley กัปตันชาวอังกฤษ​ ได้ค้นพบดินแดนแห่งแรกบริเวณ Redcliff, Moreton Bay ต่อมาได้มีการลงหลักปักฐานให้เป็นเมืองคุมขังนักโทษ และขยายอาณานิคมโดยรอบ เกิดเป็นชุมชนจนกลายเป็นเมือง ทำให้พื้นที่แห่งนี้ได้ถูกตั้งชื่อว่าเมือง Edenglassie ซึ่งเป็นชื่อเมืองแห่งหนึ่งจากสหราชอาณาจักร ระยะเวลาผ่านไป เมืองมีการพัฒนาเปลี่ยนแปลง ทั้งด้านเศรษฐกิจ, สังคม และการปกครอง จนต่อมาได้มีการเปลี่ยนชื่อมาเป็น Brisbane เพื่อเป็นเกียรติให้แก่ Sir Thomas Makdougall Brisbane ผู้ว่าการรัฐ New South Wales ในช่วงปี 1821–1825 เนื่องจากในช่วงแรกบริสเบนยังอยู่ภายใต้รัฐ New South Wales ต่อมาได้เปิดเมืองเมื่อปี 1834 หลุดพ้นจากการของอังกฤษ และการเป็นเมืองคุมขังนักโทษอย่างเป็นทางการ


รู้หรือไม่?  คำว่า Brisbane มีความหมายอย่างไร

      จากคำว่า Brisbane มาจากนามของ Sir Thomas Makdougall Brisbane ที่กล่าวไว้ก่อนหน้า แท้จริงแล้วคำๆนี้ มีรากศัพท์มาจากภาษาสก็อต คำว่า "bris" มีความหมายว่า ทุบหรือทำลาย และคำว่า “ban” (หรือ Bane ที่ถูกเติมตัว -e ) มาจากศัพท์ภาษาอังกฤษโบราณ​ แปลว่า กระดูก หรือ Bone นั่นเอง หากมารวมคำแล้ว คำว่า Brisbane จึงมีความหมายว่า กระดูกที่หัก ซึ่งไม่มีนัยยะสำคัญเกี่ยวกับตัวเมืองสักเท่าไหร่ จึงทำให้ชื่อเมืองแห่งนี้ กลายเป็นคำศัพท์เฉพาะเจาะจง หมายถึงชื่อเมืองหลวงแห่งรัฐ Queensland นั่นเอง อีกทั้งชื่อเมืองแห่งนี้ ถูกตั้งมาภายหลังจากการตั้งชื่อแม่น้ำบริสเบนซะด้วยซ้ำ

รู้หรือไม่?  เมืองบริสเบนคือต้นกำเนิดขนมประจำประเทศอย่าง Lamington




ที่มาภาพ : Photo by Eiliv-Sonas Aceron on Unsplash

      Lamington เค้กสปันจ์เคลือบช็อกโกแลตไอซิ่ง สอดไส้แยมสตรอเบอรี่ คลุกเคล้าด้วยมะพร้าวอบแห้ง ขนมหวานที่พบเห็นได้ทั่วไปตามชั้นวางในซุปเปอร์มาร์เก็ต แม้ว่ายังคงเป็นเป็นที่ถกเถียงกันถึงที่มาของการทำเจ้าขนมชนิดนี้ แต่ด้วยเรื่องราวในอดีตที่ถ่ายทอดกันมา มีแนวโน้มว่าต้นกำเนิดการผลิตจะเริ่มมาจากเมืองบริสเบน จุดเริ่มต้นมาจากเชฟขนมหวานในสมัยที่ Lord Lamington ผู้ว่าการรัฐ Queensland ในช่วงปี 1800 เชฟได้รังสรรค์เมนูนี้จากวัตถุดิบที่หลงเหลือในครัว สำหรับงานเลี้ยงสังสรรค์แขกเหรือของท่านผู้ว่าที่จัดขึ้นอย่างเร่งด่วน ซึ่งเป็นเมนูที่ไม่ได้เกิดความตั้งใจ แต่เกิดจากอุบัติเหตุที่เชฟทำเค้กสปันจ์ ตกลงในถังช็อกโกแลต ทำให้ต้องดัดแปลงจนได้กลายเป็นเมนูของหวานที่รสชาติอร่อยมหัศจรรย์จนถึงทุกวันนี้


รู้หรือไม่?  ทำไมแม่น้ำบริสเบนถึงมีสีน้ำตาล




ที่มาภาพ : Photo by Josh Withers on Unsplash

      Brisbane River แม่น้ำรูปทรงคดเขี้ยวที่ไหลผ่านใจกลางเมือง แต่เหตุใดที่สีแม่น้ำเป็นสีน้ำตาลตลอดทั้งสาย ดูเปรอะเปื้อนเหมือนมีสิ่งสกปรกเจือปน? แต่แท้จริงแล้ว สีของแม่น้ำแห่งนี้ ไม่ได้เกิดจากสิ่งปฎิกูลรวมกันในแม่น้ำ แต่เกิดจากโคลนและตะกอนดินที่สะสม
อย่างที่ทราบกันดีว่า ที่ Queensland ที่มีฝนตกค่อนข้างบ่อย โดยเฉพาะช่วงเปลี่ยนฤดู ทำให้น้ำฝนสะสมตัวเป็นน้ำป่า ไหลพัดลงมาจากป่าบริเวณเชื่อน Wivenhoe ทางตอนบนของบริสเบน ซึ่งเป็นแห่งน้ำต้นทาง ผ่านเส้นทางกว่า 344 กิโลเมตร ซึ่งเป็นแม่น้ำที่ยาวที่สุดทางตะวันออกเฉียงใต้ ของ Queensland ตลอดเส้นทางอันขดเคี้ยวไปมานี้ แรงดันน้ำก็ได้กัดเซาะดินมาเรื่อยๆ จนมาถึงบริเวณใจกลางเมืองบริสเบน ซึ่งเกือบจะเป็นปลายเส้นทางแม่น้ำก่อนออกไปบริเวณ Moreton Bay ภายนอกแผ่นดินนั่นเอง ทั้งนี้ทั้งนั้น อย่าเพิ่งชะล่าใจไปว่าแม่น้ำแห่งนี้ เราสามารถลงไปเล่นได้อย่างปลอดภัย แม้ว่าจะไม่มีสิ่งสกปรกหรือสารเคมี แต่ความมืดมิดที่เรามองไม่เห็นใต้น้ำนี้เอง กระแสน้ำที่ไหลเชี่ยว สามารถพัดพาเราให้เกิดอันตรายถึงชีวิตได้


รู้หรือไม่?  เขตไหนในบริสเบนที่ขนาดเล็กที่สุด




ที่มาภาพ : realestate.com.au

      จากทั้งหมด 260 เขตในเมืองบริสเบน ไม่น่าเชื่อว่าเขตที่มีพื้นที่เล็กที่สุดไม่ได้อยู่ไกลจากตัวเมืองเลย นั่นก็คือ Newstead บริเวณทางตอนบนติดกับแม่น้ำบริสเบน มีประชากรอาศัยในเมืองเพียง 2,193 คน (ข้อมูลล่าสุดในปี 2016) ด้วยระยะทางจากด้านบนสุดลงมาด้านล่างเพียง 3.3 กิโลเมตร เรามาทำความรู้จักย่านนี้กันมากขึ้นซะหน่อย
Newstead คือย่านที่อยู่ติดกับแม่น้ำบริสเบน สามารถเดินทางไปมาได้ง่ายจากตัวเมือง ไม่ว่าจะเป็นรถบัส หรือจะนั่งรถไฟมาลงที่สถานี Bowen Hills ใกล้เคียง และจุดจอดเรือ Ferry ที่ป้าย Teneriffe ย่านนี้กำลังมาแรงสำหรับจุดหมายยามค่ำคืน เพราะมีตั้งแต่โรงเบียร์ ผับบาร์ ท่ามกลางบรรยากาศโกดังในอดีตอย่างที่ Newstead Brewing Co และอื่นๆ อีกทั้งยังสามารถมองหาความวินเทจได้อีก ที่ Newstead House บ้านยุคโบราณยุค Victoria ที่ตั้งอยู่ใน Newstead Park สวนสาธารณะสุดชิลริมแม่น้ำ เรียกได้ว่าเป็นย่านเล็กๆ แต่มีอะไรให้ค้นหาอีกเยอะแยะมากมาย

รู้หรือไม่?  ย่านไหนที่น่าอยู่ที่สุดในบริสเบน

      ถ้าพูดถึงย่านที่น่าอยู่ของแต่ละคน คงจะเป็นเรื่องที่ตัดสินได้ยาก เพราะแต่ละคนมีความชอบหรือความสะดวกสบายในการใช้ชีวิตไม่เหมือนกัน บางคนชอบอยู่ท่ามกลางผู้คน แสงสี แต่บางคนชอบอยู่ในพื้นที่ท่ามกลางธรรมชาติ จึงจำเป็นต้องมีเกณฑ์มาวัดความน่าอยู่ของเมือง จากผลวิจัยของ Domain Liveable Brisbane และ Deloitte ได้กำหนดตัวชี้วัดต่างๆ ได้แก่ ความพร้อมของสาธารณูปโภค เช่น การเดินทางสาธารณะ, การเข้าถึงการศึกษา, อาชีพและรายได้ ฯลฯ ทั้งหมด 17 หัวข้อ วัดผลมาทั้งหมด 260 เมืองในพื้นที่เมืองบริสเบน โดยจะมาบอกเล่าถึง 3 อันดับแรกย่านที่น่าอยู่ที่สุดในตัวเมืองบริสเบนกัน

โดยอันดับหนึ่ง ย่านที่น่าอยู่มากที่สุด ( Most Liveable City ) นั่นก็คือ Alderly อยู่ทางตอนเหนือจากใจกลางเมือง 7 กิโลเมตร หลายคนคงไม่ค่อยคุ้นเคยชื่อย่านนี้สักเท่าไหร่ เนื่องจากเป็นย่านเล็กๆ มีประชากรไม่เยอะ แต่เป็นเมืองที่สงบ อัตราการเกิดอาชญากรรมน้อย ผู้คนสามารถเข้าถึงพื้นที่สีเขียวได้ง่ายและการเดินทางไปมาเข้าตัวเมืองสะดวกสบาย ไร้การจราจรที่ติดขัด มีแลนด์มาร์คทางประวัติศาสตร์ที่สำคัญก็คือ Newmarket Brickwall Chimney ใครที่กำลังมองหาบรรยากาศและการใช้ชีวิตแบบนี้ล่ะก็ Aldery คือย่านที่เหมาะกับการอยู่อาศัยมากเลยทีเดียว

รองลงมาย่านที่น่าอยู่อันดับที่สอง นั่นก็คือ Wilston ย่านที่มีเต็มไปด้วยร้านคาเฟ่ ร้านอาหาร มีพื้นที่ส่วนกลางสำหรับชุมชน และพื้นที่สีเขียวที่สามารถเข้าถึงได้ อีกทั้งเป็นย่านที่มีการ Renovate หรือปรับปรุงพื้นที่ให้ดูใหม่ และเรื่องการเดินทางก็แสนสะดวก เพราะมีสถานีรถไฟ Wilston ที่สามารถเข้าตัวเมืองได้ไม่ถึงครึ่งชั่วโมง

อันดับสามก็คือ Ascot อยู่ทางตอนเหนือ ใกล้ๆกับแม่น้ำบริสเบนและสถานที่เที่ยวชื่อดังอย่าง Eat Street Northshore เมืองนี้มีความโดดเด่นเรื่องความสะดวกสบายในด้านการเดินทาง ไม่ว่าจะเป็นรถเมล์,​รถบัส รวมไปถึง Ferry ที่สามารถเดินทางไปมาได้ง่าย อีกทั้งยังเต็มไปด้วยร้านกาแฟน่ารักๆ และเป็นย่านที่มีความปลอดภัยมากเช่นกัน

รู้หรือไม่?  เดือนไหนที่เหมาะกับการมาเที่ยวบริสเบน




ที่มาภาพ : Photo by Bambi Corro on Unsplash

      อย่างที่ทราบกันดีว่าประเทศออสเตรเลียมีทั้งหมด 4 ฤดู นั่นคือ ฤดูร้อน-ฤดูใบไม้ร่วง-ฤดูหนาว และ ฤดูใบไม้ผลิ เวียนไปตามลำดับ แม้ว่าบริสเบนจะสามารถท่องเที่ยวได้ทุกฤดูก็ตาม แต่หากต้องแนะนำเพื่อนๆหรือครอบครัว ให้มาเที่ยวในช่วงเวลาที่ดีที่สุด ช่วงเวลานั่นก็คือเดือนมีนาคมถึงพฤษภาคม ตรงกับช่วงฤดูใบไม้ร่วง (Autumn) ช่วงนั้นอุณหภูมิกำลังดี ประมาณ 15-25 องศาฯ รับลมเย็นและไอแดดอุ่นๆในเวลาเดียวกัน  อีกทั้งยังมีปริมาณฝนไม่มาก เหมาะกับการออกไปทำกิจกรรม รวมไปถึงผลผลิตทางการเกษตร ไม่ว่าจะเป็นผลไม้ ต่างพากันเติบโตให้เราได้ลิ้มลองและเก็บเกี่ยวกัน สถานที่แนะนำในช่วงเดือนก็ได้แก่การไปชมใบไม้เปลี่ยนสี ในสวนขนาดใหญ่ที่ Queens Park ในเมือง Toowomba หรือจะออกไปเดิน Trail กันที่ Bunya Mountains National Park บนเส้นทางตั้งแต่ 500 เมตร จนถึง 10 กิโลเมตร ที่ได้เดินท่ามกลางต้นสน Bunya ที่กว้างที่สุดในโลก หรือใครชื่นชอบการไปทะเล ก็เป็นช่วงที่คลื่นลมดี เรียกว่าเป็นช่วงฤดูที่เหมาะสำหรับการออกไปผจญภัยโดยเฉพาะ