รวม 9 กลุ่มสายงาน สามารถต่อยอดขอ PR

  • 0 ตอบ
  • 5547 อ่าน
*

พา-ลา-เล่น

  • *****
  • 45
  • "พา"คุณไป"ลา" และออกไป"เล่น"ในบริสเบน
    • ดูรายละเอียด



      เชื่อว่าหนึ่งเหตุผลหลักที่ทำให้คนจากทั่วโลก ตัดสินใจใช้ชีวิตในประเทศออสเตรเลียระยะยาว นั่นคือความมั่นคงและคุณภาพชีวิตที่ดีกว่า เมื่อเทียบกับประเทศบ้านเกิด และอย่างที่ทราบกันดีว่า การชาวต่างชาติจะสามารถพำนักอยู่ในประเทศนี้ได้ยาวนั้น จำเป็นต้องมีวีซ่าเฉพาะทาง (หากตัดวีซ่าท่องเที่ยวไป​) หากพูดประเภทวีซ่าคร่าวๆ ก็มีตั้งแต่ วีซ่านักเรียน, วีซ่าทำงาน และวีซ่าแต่งงาน ซึ่งผู้คนส่วนใหญ่ต่างเริ่มต้นด้วยวีซ่าประเภทเหล่านี้กัน โดยเฉพาะผู้ที่เริ่มจากศูนย์ ไม่มีทักษะหรือ Connection เฉพาะบุคคล การเริ่มต้นด้วยการศึกษาต่อในประเทศออสเตรเลีย เป็นอีกหนึ่งทางเลือกที่น่าสนใจที่จะต่อยอดอนาคตที่ออสเตรเลีย เพราะนอกเหนือจะได้เรียนรู้ทักษะความรู้ ท่ามกลางบรรยากาศบ้านเมืองที่ดีแล้ว ยังสามารถทำงานได้อย่างถูกต้องตามกฎหมายนั่นเอง



ที่มาภาพ : noborders-group.com

      นอกจากการถือวีซ่านักเรียนแล้ว ยังมีวีซ่าอีกประเภทที่น่าสนใจ นั่นคือ Work and Holiday Visa (WAH) เป็นวีซ่าเพื่อการเริ่มต้นการทำงานและท่องเที่ยวในออสเตรเลียหรือนิวซีแลนด์โดยเฉพาะ แบบไม่มีเงื่อนไขผูกมัดเป็นระยะเวลา 1 ปี ซึ่งเปิดโอกาสสำหรับชาวไทยที่มีอายุ 18-30 ปี สามารถลงทะเบียนถือวีซ่าประเภทนี้ได้ ผ่านกรมกิจการเด็กและเยาวชน (ดย.) โดยจะเปิดรับสมัครเพียงปีละครั้ง และมีจำนวนจำกัดอีกด้วย สามารถอ่านรายละเอียดเพิ่มเติมต่อได้ที่ www.dcy.go.th

แม้ว่าวีซ่านักเรียนและวีซ่า WAH จะสามารถอยู่ในออสเตรเลียได้ยาวก็จริง แต่ก็มีระยะเวลาจำกัดเหมือนกัน จะดีกว่ามั้ย ถ้าเราได้เรียนและทำงานในสายอาชีพที่กำลังเป็นที่ต้องการในประเทศออสเตรเลีย เพราะนอกจากจะง่ายต่อการถูกว่าจ้างแล้ว การสร้างรายได้ที่เพิ่มพูนและโอกาสที่สามารถต่อยอด ย่อมได้มากกว่า นั่นคือการขอต่อวีซ่า PR หรือชื่อเต็มว่า Permanent Resident Visa ที่เราจะมาเล่ากันในวันนี้ แต่การที่จะได้มาของวีซ่านั้น ไม่ใช่ว่าทำงานตรงสายแล้วได้เลย แต่ต้องได้รับการ Sponsor จากนายจ้างเสียก่อน แล้วจึงจะสามารถยื่นเรื่องเพื่อขอวีซ่า PR โดยต้องมีสอบและนับคะแนนตามเกณฑ์ต่างๆที่รัฐบาลต้องการ ซึ่งเราจะมาขยายต่อทีหลังในโอกาสต่อไป หากเราได้มีโอกาสได้ถือวีซ่าประเภทนี้แล้ว นอกจากจะสามารถพักอาศัยได้ในประเทศระยะยาวเลย เรายังได้รับสิทธิต่างๆ เพิ่มมากขึ้น เช่น การได้รับประกันสุขภาพ (Medicare), การซื้ออสังหาริมทรัพย์, สามารถกู้ยืมเพื่อการศึกษา, สวัสดิการในการใช้ชีวิต ซึ่งจะนำไปยังเป้าหมายสุดท้าย นั่นคือการยื่นเรื่องขอเป็นประชากร หรือ Citizenship นั่นเอง



ที่มาภาพ : unsplash.com/@jcrod
 
      เรามาเริ่มต้นดูกันว่าสายอาชีพไหนที่กำลังเป็นที่ต้องการในประเทศ โดยยึดตาม Medium and Long Term Strategic Skills List (MLTSSL) คือลิสอาชีพทักษะ ที่กำลังเป็นที่ขาดแคลนระยะกลาง และระยะยาว ซึ่งเป็นอาชีพที่มีความต้องการสูงทุกปี ซึ่งมีรายชื่ออาชีพทั้งหมดหลักร้อยกว่าสายงาน แต่สำหรับบทความนี้ เราจะมาจัดอันดับ กลุ่มสายงานที่มีความต้องการมากที่สุดในประเทศออสเตรเลีย อัพเดทปี 2021 แบ่งได้ดังต่อไปนี้




      จากผลกระทบโรคระบาดที่เริ่มต้นเมื่อช่วงปีก่อน บอกได้เลยว่ากลุ่มสายงานนี้กำลังเป็นที่ต้องการอย่างยิ่ง แม้ว่าสถานการณ์ในประเทศเองจะดีขึ้นแล้ว แต่ก็ยังมีความไม่แน่นอนอยู่เหมือนกัน แม้ว่างานจะเหนื่อย จะหนัก แต่ขอบอกเลยว่าในอนาตต รุ่งแน่นอน!

กลุ่มอาชีพนั้น ก็คือ
  • ผู้ทำงานในวงการสุขภาพ, การแพทย์ อันได้แก่ แพทย์ทั่วไป, กุมารแพทย์ (Paediatrician), พยาบาลวิชาชีพ, นางพยาบาลทำคลอด (Midwife)
หรือผู้เชี่ยวชาญเฉพาะทาง อย่างเช่น
  • แพทย์ฝังเข็ม, แพทย์เกี่ยวข้องกับหัวใจ (Cardiologist), นักตรวจการได้ยิน (Audiologist), วิศวกรรมชีวการแพทย์ (Biomedical Engineer), นักเทคโนโลยีชีวภาพ (Biotechnologist), นักจัดกระดูก (Chiropractor), นักโลหิตวิทยา (Clinical Haematologist), นักจิตวิทยา (Clinical Psychologist), แพทย์ผิวหนัง (Dermatologist), ผู้วินิจฉัยเกี่ยวกับรังสีวิทยา (Diagnostic and Interventional Radiologist), เจ้าหน้าที่แผนกอายุกรรมฉุกเฉิน (Emergency Medicine Specialist), นักวิทยาต่อมไร้ท่อ (Endocrinologist), ผู้เชี่ยวชาญด้านเนื้องอก (Medical Oncologist) ฯลฯ



      นับเป็นสายอาชีพที่ขาดไม่ได้และเป็นที่ต้องการในทุกพื้นที่ เพราะการก่อสร้าง เป็นจุดเริ่มต้นของการพัฒนา ไม่ว่าจะเป็นบ้านเรือน หรือตัวเมืองเองก็ตาม สายงานที่เกี่ยวข้อง แบ่งได้เป็นประเภทต่างๆดังต่อไปนี้

  • ประเภทงานซ่อมแซมระบบ อาทิ ช่างประปา, ช่างซ่อมท่อระบายน้ำ, ช่างทำกุญเจ (Locksmith)
  • ประเภทงานซ่อมอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์และวงจร อาทิ ช่างรถยนต์,​ ช่างไฟ, ช่างซ่อมแอร์, ช่างติดตั้งแก๊ส, ช่างลิฟท์ (Lift Mechanic), ช่างฟิตและช่างเครื่องกล (Fitter and Turner) ฯลฯ
  • ประเภทงานก่อสร้างและโครงการขนาดใหญ่ อาทิ ช่างก่ออิฐ (Bricklayer), ช่างไม้, ช่างหิน, ช่างปูนก่อฉาบ, ช่างกระจก, วิศวกรโยธา, ผู้จัดการโครงการระบบ (Construction Project Manager), เจ้าหน้าที่ซื้อขายอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ (Electronic Instrument Trades Worker), วิศวอุตสาหการ (Industrial Engineer), ผู้ผลิตเหล็ก (Metal Fabricator), นักวิศวกรเหมืองแร่ (Mining Engineer), วิศวกรปิโตรเลียม (Petroleum Engineer), วิศวกรด้านโทรคมนาคม (Telecommunications Engineer) ฯลฯ



      การเพาะปลูกในออสเตรเลีย เป็นอีกหนึ่งอุตสาหกรรมหลักของประเทศเลยก็ว่าได้ นอกจากจะมีผลผลิตเพื่อเลี้ยงประชากรภายในประเทศแล้ว ยังมีการส่งออกวัตถุดิบทางการเกษตรออกไปต่างประเทศด้วยเช่นกัน ทั้งผัก ผลไม้ รวมไปถึงเนื้อสัตว์เกรดพรีเมี่ยม

สายอาชีพที่อยู่กลุ่มนี้ อันได้แก่
  • ผู้เชี่ยวชาญด้านการเกษตร (Agricultural Consultant), วิศวกรการเกษตร (Agricultural Engineer), นักวิทยาศาสตร์การเกษตร (Agricultural Scientist), นักพฤษศาสตร์ (​Botanist), รวมไปถึงนักพัฒนาสิ่งแวดล้อม ทั้งในด้าน นักปรึกษาสิ่งแวดล้อม (Environmental Consultant), นักวิทยาศาสตร์วิ่งแวดล้อม (Environmental Scientists), พนักงานป่าไม้, นักชีววิทยาทางทะเล (Marine Biologist) ฯลฯ



      ปฎิเสธไม่ได้เลยว่าเรื่องของเทคโนโลยีและนวัตกรรม คืออนาคตที่น่าจับตามองอย่างยิ่ง โดยเฉพาะอย่างยิ่งในวงการยานยนต์ ตัวอย่างเทคโนโลยีที่กำลังเป็นที่พูดถึงนั่นคือ รถยนต์ไฟฟ้า (EV) ที่กำลังจะมาเปลี่ยนแปลงการใช้ชีวิตของผู้คนทั่วโลกเลยก็ว่าได้ ทำให้สายอาชีพที่เกี่ยวข้องในอุตสาหกรรมนี้ค่อนข้างเป็นที่ต้องการ

สายอาชีพที่อยู่ในกลุ่มนี้ อันได้แก่
  • วิศวกรออกแบบเครื่องบิน, ช่างระบบไฟยานยนต์ (Automotive Electrician), นักประกอบและซ่อมแซมเรือ (Boat Builder and Repairer), นักวิศวกรรมเครื่องกล (Diesel Motor Mechanic) ฯลฯ




      ต่อยอดมาจากสายยานยนต์ นั่นคือสายนักพัฒนาด้านดิจิตอล เรียกว่าเป็นผู้อยู่เบื้องหลังระบบต่างๆที่เราได้ใช้งานรอบตัว อย่างบน Smart Phone ของเรา รวมไปถึงสิ่งประดิษฐ์ใหม่ๆในอนาคตเอง ก็ต้องการกลุ่มทักษะด้านนี้เหมือนกัน นับว่ามาแรงเลยทีเดียว

กลุ่มอาชีพนี้ ก็มีตั้งแต่
  • นักวิเคราะห์โปรแกรม (Analyst Programmer), นักวิศวกรรมคอมพิวเตอร์และระบบ (Computer Network and Systems Engineer), นักพัฒนาและวิศวกรซอฟต์แวร์ (Developer Programmer/ Software Engineer), นักวิเคราะห์ธุรกิจเทคโนโลยีสารสนเทศ (ICT Business Analyst) ฯลฯ



      ละเอียดลงมา สำหรับสายงานที่เกี่ยวกับเด็กเล็ก ทั้งด้านการดูแลและให้การศึกษา กลุ่มอาชีพที่เกี่ยวข้องกับเด็กอ่อน มีตั้งแต่
  • ผู้จัดการสถานรับเลี้ยงเด็กอ่อน,​ คุณครูสอนเด็กเล็ก (Pre-primary School)
ส่วนในสายการศึกษา
  • นักจิตวิทยาด้านการศึกษา (Educational Psychologist), คุณครูพิเศษ (Special Education Teachers nec), ครูสอนผู้บกพร่องในด้านต่างๆ เช่น การได้ยิน, การมองเห็น, อาจารย์มหาวิทยาลัย
 ฯลฯ




      เป็นกลุ่มอาชีพยอดนิยมมาอย่างยาวนาน โดยเฉพาะเมืองใหญ่ที่รายล้อมไปด้วยอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวและการบริการ อย่างโรงแรม ร้านค้า ร้านอาหาร แต่เนื่องจากผลกระทบของโรคระบาด และจำนวนแรงงานจบใหม่ในสายงานนี้เกิดขึ้นเป็นจำนวนมาก ทำให้ความต้องการแรงงานอาชีพนี้ค่อนข้างลดลง แต่ก็ยังพอมีอาชีพที่สามารถยื่นขอวีซ่า PR ได้ ตั้งแต่
  • เชฟ, ผู้จัดการโรงแรม เป็นต้น



      ใครว่าการขอวีซ่า PR จำกัดเฉพาะคนทำงานสายวิชาชีพหรือแรงงานเท่านั้น เพราะช่วงนี้คือโอกาสของผู้ที่ทำงานในวงการบันเทิงหรือวงการออกแบบ แม้ว่าวงการออกแบบหรือวงการบันเทิงในออสเตรเลีย จะไม่ได้สร้างผลงานที่มีชื่อเสียงระดับโลกเหมือนฝั่งอเมริกา แต่ก็ถือว่ากำลังมาแรงอยู่เหมือนกัน

กลุ่มอาชีพที่กำลังเป็นที่ต้องการ อันได้แก่
  • สถาปนิก, ผู้กำกับงานศิลป์, นักแสดง, นักดนตรี, นักเต้น/ นักออกแบบท่าเต้น หรือผู้ที่ประกอบอาชีพสายงานบันเทิง, ผู้จัดการธุรกิจโฆษณา (Advertising Manager), ผู้ชำนาญการสื่อโฆษณา (Advertising Specialist), ช่างเขียนแผนที่ (Cartographer), นักเก็บรักษางานศิลปะ (Conservator), ช่างตัดเสื้อ, นักกำกับเพลง (Music Director) ฯลฯ



      นอกเหนือจากกลุ่มอาชีพข้างต้นแล้ว ก็ยังมีสายอาชีพเฉพาะทางอื่นๆที่น่าจับตามอง (หรือบางอาชีพไม่เคยได้ยินมาก่อน) และสามารถยื่นขอ PR ได้เช่นกัน อย่าง
  • นักบัญชี, ผู้สอบบัญชี, นักเศรษฐศาสตร์,​นักสถิติ, ทนายความ, นักชีวเคมี (Biochemist), นักเคมี (Chemist), นักฟุตบอล, โค้ชสอนเทนนิส, ที่ปรึกษาด้านการจัดการ, นักสังคมสงเคราะห์, นักสัตววิทยา (Zoologist), สัตวแพทย์ ฯลฯ

อย่างไรก็ดี สามารถอ่านรายชื่ออาชีพที่เข้าข่ายทั้งหมด ได้ที่ลิงก์นี้เลย https://immi.homeaffairs.gov.au/visas/working-in-australia/skill-occupation-list

      หันกลับมาทบทวนตัวเองอีกที ว่าทักษะและวุฒิการศึกษาที่เรามี กำลังเป็นที่ต้องการของประเทศหรือไม่ หากไม่ การสมัครศึกษาต่อในออสเตรเลีย ย่อมเป็นจุดเริ่มต้นที่ดีและมั่นคง ซึ่งหลักสูตรที่ศึกษาต่อมีหลากหลายประเภท หลากหลายราคา ตั้งแต่หลักหมื่นบาทจนถึงหลักล้าน สามารถเริ่มต้นได้ตั้งแต่ Vocational Education and Training (VET) หรือที่หลายคนเรียกสั้นๆว่า เรียน Diploma จบง่าย จบเร็ว ราคาถูกกว่า เมื่อเทียบกับหลักสูตรมหาวิทยาลัย ทั้ง Undergraduate หรือต่อไปในระดับ Post Graduate


มาตั้งเป้าหมายอนาคตให้ชัดเจน และมุ่งมั่นทำให้สำเร็จล่ะ


อ้างถึง
ข้อมูลอ้างอิง

https://immi.homeaffairs.gov.au/visas/working-in-australia/skill-occupation-list

https://thebestedu.blog/2021/02/03/study-trade-courses-to-pr-in-australia/

https://www.noborders-group.com/news/top-8-benefits-of-australian-permanent-residency-
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 22/06/2021 12:06 โดย พา-ลา-เล่น »